ตำนานเก่าก่อนกล่าวถึง พระเขี้ยวแก้ว หรือพระทันตธาตุของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า คือสิ่งล้ำค่าและศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินศรีลังกา หากผู้ใดได้ครอบครองก็จะได้สิทธิอันชอบธรรมในการปกครองแผ่นดิน
เชื่อกันว่า พระเขี้ยวแก้ว ได้ประดิษฐานอยู่ที่เกาะศรีลังกามาเป็นเวลากว่า 1,700 ปีแล้ว เป็นของคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้อย่างดีที่วัดศรีทัลฒามัลลิกาวรวิหาร(Sri Dalada Maligawa | The Temple of the Sacred Tooth Relic) ใจกลางเมืองแคนดี และทุกๆ วันตั้งแต่เช้าตรู่จะมีพุทธศาสนิกชนรอเข้าแถวมาถวายดอกไม้สักการะเป็นจำนวนมาก
พระเขี้ยวแก้ว ได้รับการถวายบูชาอย่างสูงสุดจากชาวศรีลังกา พวกเขาเชื่อว่าเมื่อใดเกิดทุกข์ภัยความเดือดร้อนขึ้น การอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วออกมาให้ผู้คนสักการะบูชา จะช่วยปัดเป่าภัยพิบัตินั้นได้ เป็นที่มาของประเพณีอันยิ่งใหญ่ในราวเดือนสิงหาคมของทุกปี เมื่อพระเขี้ยวแก้วถูกอัญเชิญขึ้นบนหลังช้าง ตั้งขบวนแห่ยาวเหยียดไปตามถนนของเมืองแคนดีตั้งแต่บ่ายไปจนถึงค่ำคืนเป็นเวลาถึง 10 วัน
พิธีสมโภชพระเขี้ยวแก้ว (Esala Perahera ) ประกอบไปด้วยช้างนำขบวนนับร้อยเชือก ทรงเครื่องประดับประดาอย่างสวยงาม ระบำพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์ ดนตรี การแสดง ซึ่งจำลองเหตุการณ์สมโภชแบบโบราณและการขับเคลื่อนฟันเฟืองแห่งศรัทธาด้วยคบไฟนับร้อยนับพันดวง ช่วยสร้างบรรยากาศขรึมขลังอลังการให้กับเมืองแคนดียามค่ำคืน
งานสมโภชพระเขี้ยวแก้วในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดี และถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังอาจเป็นงานเฉลิมฉลองทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (อ้างอิง: britannica.com)

Photo: ©Rachot Visalarnkul

Photo: ©Rachot Visalarnkul
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี พ.ศ. 2562 ได้เกิดกรณีช้างที่เข้าร่วมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้วล้มป่วย (อ้างอิง: รัฐบาล “ศรีลังกา” สั่งสอบเหตุทรมานช้างแก่ ในขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว โดย PPTV Online เผยแพร่ 16 ส.ค. 2562) เกิดเป็นแคมเปญรณรงค์ให้ดูแลความเป็นอยู่และการใช้งานช้างที่เข้าร่วมขบวนแห่ใน www.change.org ในปี พ.ศ. 2563 ต่อเนื่องจนมาถึงกรณีนำช้างไทยกลับบ้านเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เหตุการณ์ต่อเนื่องดังกล่าวแม้จะสร้างให้เกิดข้อขัดแย้งอยู่บ้าง หากก็นับเป็นเรื่องที่ดี ที่จะช่วยสร้างการตรวจสอบและยกระดับความเป็นอยู่ของช้างในขบวนแห่ ตลอดจนช้างที่อาศัยอยู่ประจำวัดต่างๆ ในประเทศศรีลังกาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องราวความผูกพันระหว่าง คน ช้าง พุทธศาสนา ในศรีลังกาก็มีความคล้ายคลึงกันกับในสังคมไทย การดูแลความเป็นอยู่ของช้างเหล่านั้นให้ดียิ่งขึ้น ยังเป็นการขับเคลื่อนศรัทธาในประเพณีอันเก่าแก่ที่เจือจานไปสู่สัตว์ร่วมโลกอื่นๆ และไม่ผูกขาดอยู่กับเพียงมนุษย์เท่านั้นอีกด้วย

Photo: ©Rachot Visalarnkul



พิธีสมโภชพระเขี้ยวแก้ว จะมีผู้เข้าร่วมจำนวนนับแสน เป็นงานใหญ่ที่ชาวศรีลังกาทั่วทั้งประเทศเฝ้ารอคอยเ ก่อนจะเริ่มขบวนแห่ในแต่ละวัน ผู้คนมาจับจองพื้นที่สองฟากฝั่งถนนแต่เช้าตรู่ และอยู่ร่วมชนจนดึกดื่นค่ำคืน
Photo: ©Wason Wanichakorn





ระหว่างที่ผู้คนเฝ้ารอคอยขบวนแห่ ในอีกมุมหนึ่งกำลังตระเตรียมขบวนอย่างแข็งขัน ช้างที่ร่วมขบวนจะได้รับการดูแล อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ ให้อาหารก่อนจะแต่งตัวประดับประดา เหล่านักดนตรีและนักแสดงก็เริ่มแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายประจำชาติอันมากมายด้วยสีสัน
Photo: ©Sayan Chuenudomsavad

Photo: ©Jirapong Wongwiwat

Photo: ©Wason Wanichakorn

Photo: ©Wason Wanichakorn

Photo: ©Wason Wanichakorn





นักแสดงร่ายรำในท่วงทำนองศิลปะสิงหลอันเก่าแก่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย การได้รับโอกาสให้ร่วมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว คือหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์และภาคภูมิใจ
Photo: ©Pattana Jeingwattanasomsook

Photo: ©Jirapong Wongwiwat

Photo: ©Jirapong Wongwiwat

Photo: ©Wason Wanichakorn

Photo: ©Pattana Jeingwattanasomsook

Photo: ©Wason Wanichakorn
ภาพชุดพิธีสมโภชพระเขี้ยวแก้วนี้ บันทึกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566
ขอขอบคุณ
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ
คุณพจน์ หาญพล เอกอัครราชทูตไทยประจำศรีลังกา
คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา

The photos were taken by Rachot Visalarnkul, Wason Wanichakorn, Jirapong Wongwiwat, Pattana Jeingwattanasomsook and Sayan Chuenudomsavad