ท่ามกลางสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่ลุล่วงและข่าวนักการเมืองแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงหลักๆ ก็มีข่าวรายชื่อของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกระทรวงขนาดเล็ก เกรดซี โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ เพียงตำแหน่งเดียว แต่เป็นกระทรวงที่มีความหมายอย่างยิ่งต่ออนาคตของทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ
กระผมในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับวงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าโดยตรง ทั้งในฐานะอาจารย์คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตบุคคลากรด้านป่าไม้และสัตว์ป่าหลักให้กับประเทศ และอดีตผู้บริหารองค์กรเอกชนด้านอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า และเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของประเทศในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการระดับชาติด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ขอร่วมแสดงความเห็นและความฝันถึงคุณลักษณะและความคาดหวังของผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในรัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นความหวังของคนไทยทั้งชาติ ดังนี้
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพฯ ต้องเห็นคุณค่าความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: คุณสมบัติข้อนี้ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ที่จะมาคุมกระทรวงทรัพฯ เพราะพื้นที่ป่าไม้ที่สมบูรณ์ในปัจจุบัน นับวันจะได้รับกระแสกดดันจากการพัฒนาต่างๆ อย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้ให้กลายเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่ดินอื่นๆ ในหลายรูปแบบ เพื่อผลประโยชน์ส่วนบุคคลทั้งในระดับท้องถิ่น นายทุนต่างถิ่น และนักการเมืองในระดับชาติ รวมทั้งโครงการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดจากหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น เขื่อนกักเก็บน้ำ เส้นทางคมนาคม และการพัฒนาเพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นคือ ภาวะโลกร้อน (Global warming) ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาด ดังเช่นปี 2566 นี้ ที่ได้กลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดทำลายสถิติทั่วโลก จนมีการตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ภาวะโลกเดือด” (Global Boiling) และคาดการณ์ว่าความร้อนจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ดังนั้น รมต.กระทรวงทรัพฯ จึงต้องเป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำที่สามารถใช้ความรู้ความสามารถเพื่อต้านทานกระแสการพัฒนาเหล่านั้น เพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งดูดซับความชื้น เป็นต้นน้ำลำธาร เป็นแหล่งเก็บกักคาร์บอน และเป็นแหล่งรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ป่าที่อยู่ในภาวะถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์ของโลก
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพฯ ต้องมีธรรมาภิบาล (Good governance) อย่างแท้จริง: เรื่องการมีธรรมาภิบาลเป็นเรื่องที่พูดกันเป็นหลักการในการบริหารงานทั่วไป แต่ในระบบราชการมักจะกลายเป็นประเด็น “พูดอย่าง ทำอย่าง” และทำให้เกิดกิจกรรมการสร้างภาพว่าดีอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการจัดงาน Event และนิทรรศการต่างๆ และการลงบทความเชียร์กันตามสื่อหลากหลายซ้ำๆ แต่ความเป็นจริง กลับเกิดภาวะคอรัปชั่นอย่างหนักภายในหน่วยงานฯ ตัวอย่างที่ดีที่สุดที่อยู่ในความทรงจำของสังคมไทย คือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเพิ่งได้รับการจัดอันดับเป็นหน่วยงานต่อต้านทุจริต ส่งเสริมคุณธรรมความโปร่งใส ในต้นปี 2565 แต่พอปลายปี อธิบดีฯ ถูกจับคาห้องทำงานพร้อมเงินที่ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างหนักอย่างไม่เคยปราฎมาก่อน จนกระทั่งข้าราชการในกระทรวงฯ พูดในเชิงล้อเลียนนโยบาย “No gift policy” ว่าจริงๆแล้วเป็นนโยบาย “No gift but cash only policy”
ดังนั้น รมต.กระทรวงทรัพย์ฯ ต้องเป็นคน พูดจริง ทำจริง ไม่สร้างภาพเกินจริงและมีธรรมาภิบาลในการบริหารงาน คัดเลือกคนดีคนเก่ง เป็นผู้บริหารในแต่ละกรมกองภายใต้กระทรวงทรัพฯ คำว่าคนดีคนเก่งนั้น หมายถึงการแต่งตั้งคนให้ตรงกับความรู้ คุณวุฒิ และความเชี่ยวชาญในสายงานของกรมนั้นๆ ด้วย หากแต่งตั้งผู้บริหารไม่ตรงกับคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญที่ในระบบราชการเรียกว่า แต่งตั้งแบบ “ข้ามห้วยไป ข้ามห้วยมา” จะเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะพัฒนางานในได้ผลเลิศอย่างแท้จริง และกระทบต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานนั้นๆ อีกด้วย
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพฯ ต้องสามารถแสดงบทบาทผู้นำด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติในเวทีโลก: งานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นงานที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับข้อตกลงและอนุสัญญาในระดับนานาชาติหลากหลาย เช่น อนุสัญญาไซเตสที่ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ อนุสัญญามรดกโลกที่ว่าด้วยการรักษาพื้นที่ที่มีคุณค่าโดดเด่นทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของโลก อนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ว่าด้วยข้อตกลงร่วมกันเพื่อลดภาวะโลกร้อน อนุสัญญาแรมซาร์ที่ว่าด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ อนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพที่ว่าด้วยข้อตกลงร่วมกันเพื่อรักษาความหลากหลายชีวภาพในโลกและอนุสัญสัญญา พิธีสาร และข้อตกลงระหว่างประเทศอื่นๆ อีกมากมาย รมต.กระทรวงทรัพฯ จึงควรเป็นผู้มีความสามารถทางด้านภาษาในระดับหนึ่ง และมีไหวพริบปฏิภาณในการเรียนรู้และทำความเข้าใจเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของแต่ละอนุสัญญา และแสดงบทบาทความเป็นผู้นำในที่ประชุมนานาชาติได้ เพราะหากทำได้ จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากอนุสัญญาเหล่านี้อย่างเต็มที่
ดังนั้น รมต.กระทรวงทรัพฯ ต้องไม่ใช่อดีตนายตำรวจ หรือผู้นำการเมืองในระดับท้องถิ่นอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวในสำนักข่าวต่างๆ หรือที่ปรากฏเป็นคลิปในคำหาเสียงของผู้นำพรรคการเมืองที่พยายามใช้คำกล่าวหาเสียงเพื่อสร้างมิติใหม่ๆ แต่ไม่ได้ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และคุณสมบัติของผู้นำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับงานในอนาคตอย่างแท้จริง
ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางธรรมชาติ ที่มีพันธุ์ไม้และพันธุ์สัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์เหลืออยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ คือ อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นหลัก และเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 20% ของพื้นที่ประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ เป็นสมบัติของชาติโดยรวมที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติมีหน้าที่ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นผู้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของชาติด้านนี้

ผู้ทรงคุณวุฒิด้านทรัพยากรป่าไม้
คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ